รู้จักเรามากขึ้น

ในช่วงปีพ.ศ. 2514 มานั้นป่าไม้และสัตว์ป่าในป่าภูเขียวถูกล่าและทำลายอย่างมาก การใช้กฎหมายในการป้องกันผืนป่าทำให้เกิดการใช้ความรุนแรงทั้งเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ทั้งสองฝ่ายมีแต่ความสูญเสีย พ่อมานพได้ตระหนักถึงปัญหานี้และคิดว่าการรักษาป่าที่ยั่งยืนจริงๆแล้วต้องสร้างเกราะป้องกันป่า นั่นคือการช่วยกันปรับเปลี่ยนทัศนคติของชาวบ้านรอบเขตฯภูเขียว

ปี พ.ศ. 2528 คุณพ่อ มานพ ชมภูจันทร์ ผู้บุกเบิกและหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียวคนแรก คุณอา โกสีย์ ปาณาเขียว และกลุ่มเพื่อนของพ่อมานพ ที่ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธืสัตว์ป่าภูเขียว กลุ่มครู กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ตำบลหนองข่า ตำบลโนนกอก ตำบลบ้านเดื่อ ตำบลบ้านบัว อำเภอเกษตรสมบูรณ์ จังหวัดชัยภูมิ ร่วมกันก่อตั้ง ศูนย์ร่วมพัฒนาหมู่บ้านและอนุรักษ์ป่าภูเขียว ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น โครงการรักษาป่าภูเขียว โครงการอนุรักษ์ป่าภูเขียว กองทุนอนุรักษ์ป่าภูเขียว และกองทุนนกกระเรียนคืนถิ่น ตามลำดับ

เป้าหมายของกองทุนฯลฯที่ก่อตั้งมานั้นมีเป้าหมายเพื่อพัฒนาชุมชนไม่ว่าจะเป็นการให้โอกาสทางการศึกษาแก่ลูกหลานชาวบ้านรอบเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียว เพิ่มศักยภาพด้านวิชาชีพแก่คนหนุ่มสาว พัฒนาผลผลิตทางการเกษตร และประสานงานกับเครือข่ายเพื่อสังคมอื่นๆ เพื่อให้ชุมชนเข้มแข็งขึ้น สามารถสร้างรายได้ต่อคนและต่อครัวเรือนได้มากขึ้น และทัดเทียมกับคนเมืองให้ได้มากที่สุด

วันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2545 ปีที่ 17 ของกองทุนอนุรักษ์ป่าภูเขียว ได้จดทะเบียนเปลี่ยนเป็นมูลนิธิอนุรักษ์ป่าภูเขียว โดยมีคุณ มานพ ชมภูจันทร์ อดีตผู้บุกเบิกและหัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูเขียวคนแรก ทำหน้าที่ประธานกรรมการมูลนิธิอนุรักษ์ป่าภูเขียวเป็นคนแรก

การจากไปของคุณพ่อ มานพ ชมภูจันทร์ ในปีพ.ศ. 2562 ประกอบกับ Covid-19 เริ่มระบาดอย่างรุนแรง ทำให้การทำงานของมูลนิธิฯต้องชะงักลง แม้จะพ้นช่วงสถานการณ์ระบาดไปเรียบร้อยแล้วแต่กระนั้นเองคณะกรรมการมูลนิธิฯมีความเห็นว่าจำเป็นต้องปรับการทำงานเพื่อให้ทันสมัยและให้สังคมรับรู้ถึงการทำงานในวงกว้างขึ้น จึงมีการวางแนวทางการทำงานใหม่ พร้อมกับมุ่งไปสู่การเป็น “มูลนิธิเพื่อการกุศล” เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่บุคคลและองค์กรที่บริจาคอย่างที่สุดด้วย

ท้ายนี้คณะกรรมการมูลนิธิฯทุกคนขอขอบคุณทุกท่านที่ให้การสนับสนุนการดำเนินงานด้วยดีเสมอมา ขอความกรุณาทุกท่านยังให้การสนับสนุน ติดตามการทำงาน และเดินทางไปด้วยกันกับมูลนิธิอนุรักษ์ป่าภูเขียว